7.08.2555

ไหลไปตาม(แม่)น้ำ


นิตยสาร Anywhere ฉบับเดือนพฤษภาคม 54 คอลัมน์ Travel Journal (1หน้า)
Text + Photo : มานู สะตี
 
ไหลไปตาม(แม่)น้ำ
                    ห่วงยางกับทะเลเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยจนแทบรู้สึกว่าขาดกันไม่ได้ แต่สำหรับห่วงยางกับแม่น้ำนั้นจะเข้ากันจริงหรือ?
                    ยังไม่ทันเข้าตัวเมืองวังเวียง ธรรมชาติและสองข้างทางก็ทำเอารักลาวตั้งแต่แรกพบ ชัตเตอร์กล้องแทบไม่ได้หยุดหายใจ ภูเขาที่นี่เรียงซ้อนกันอย่างอบอุ่นจนต้องบันทึกภาพไว้จริงๆ หนึ่งในวิวที่ได้มองเห็นภูเขาใกล้ๆ นั้นเห็นจะเป็นร้านอาหารริมแม่น้ำซอง(แปลว่ามอง) เราก็ไปนั่งน้ำตาไหลกับส้มตำปูเผ็ดซี้ด ที่เกิดเหตุของการเริ่มสืบหาห่วง(ยาง) มองไปทางเท้าเห็นคนหิ้วห่วงยางขึ้นบกกันเป็นแถว พวกเขาหิ้วไปไหนกัน 
                    เดินเข้าร้านขายเสื้อก็มีสกรีนลาย In The Tubing Vang Vieng จารึกเอาไว้บนเสื้อกล้าม-เสื้อยืด ชักไม่ธรรมดาซะแล้วล่ะ! เจอนักเดินทางคนไทย(ผู้มีประสบการณ์ที่นี่มาก่อน) ก็ทักว่าได้ล่องห่วงยางกันแล้วหรือยัง? เห็นทีเราจะต้องเดินไปร้านจำหน่ายห่วงยางกันเสียที (กิจกรรมในแม่น้ำซองมีให้เลือกหลายอย่าง หากไม่อยากเปียกทั้งตัว และไม่อยากอยู่ในน้ำนานๆ ก็เลือกพายเรือคายัคหรือนั่งเรือหางยาวได้) ควักเงินออกมา 115,000 กีบ (ค่าห่วงยาง+รถพาไปต้นน้ำ = 55,000 กีบ และมีค่ามัดจำห่วงยาง 60,000 กีบ จะคืนเงินให้ตอนนำห่วงยางมาคืน) หรือจ่ายเป็นเงินไทย 500 บาท มีกติกาง่ายๆ ว่าต้องนำพาตัวเองลอยตามแม่น้ำซองและสาวเท้าเดินมาให้ถึงร้านก่อน 6 โมงเย็น มิฉะนั้นเงินมัดจำจะสูญหายไปทันที ของมีค่าที่ต้องนำพกติดตัวก็ใส่ซิปล็อกกันน้ำเข้าคล้องคอไว้ แต่ถึงอย่างไรก็อย่าเพิ่งรีบไว้ใจว่าจะกันน้ำเข้าได้ชัวร์ เพราะเราได้พบกับ ถุงกันน้ำออก มากับตัวเองแล้ว (ประสบการณ์ตรงสุดๆ) 
                    บริเวณจุดปล่อยตัวกระแสน้ำค่อนข้างไหลแรง แค่เท้าแตะก็รู้สึกเย็นเจี๊ยบราวกับมีน้ำแข็งอยู่ในน้ำ ไม่บ่อยนักที่จะได้ใกล้ชิดภูเขาใหญ่โตขนาดนี้ หินปูนสีเขียวนี้ได้รับนามปากกาว่ากุ้ยหลินเมืองลาวเชียวนะ สวยและยิ่งใหญ่จนนึกเสียดายที่พลาดเก็บกล้องรู้ใจไว้ที่ห้องพัก ระหว่างทางที่ล่องไปตามน้ำ ก็มีร้านกิน-ดื่มริม 2 ฝั่งอยู่เป็นระยะๆ เรียกกันว่า บาร์น้ำ เสริมด้วยกิจกรรมสไลเดอร์ หรือเชือกให้โหนเล่น หลายๆ คนนิยมจิบเบียร์ลาวแก้หนาว และความสนุกกับห่วงยางก็มีหลายวิธี การสร้างสรรค์ท่านั่ง-นอนบนห่วงยาง ท่าอะไรที่ทำให้เราลอยได้สบายที่สุด ทำอย่างไรให้ดูโดดเด่นจากนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น หรือนอนอ่านหนังสืออย่างไรไม่ให้เปียกน้ำ ระหว่างล่องไปก็เห็นชาวบ้านหลายคนก้มเก็บอะไรสักอย่างในน้ำ มาถึงบางอ้อทีหลังว่าเขาเก็บสาหร่ายกัน
                    3-4 ชั่วโมงกว่าๆ กลางแม่น้ำซองมีอะไรให้มองมากมาย เท้าได้สัมผัสก้อนหิน ลมพัดแรงทำเอาขนแขนตั้ง ตรง น้ำพัดหมุนห่วงยางลอยเข้าฝั่ง ลอยตามเพื่อนไม่ทัน นึกกลัวว่าจะมีตัวอะไรอยู่ใต้น้ำ ย้อนกลับไปเป็นเด็กเล่นห่วงยางแบบไม่ต้องเขินอาย ถ้าโชคดีอาจจะได้เห็นบอลลูนยักษ์ลอยผ่านหน้าไปด้วย ประสบการณ์ไหลไปตามลำน้ำครั้งนี้ไม่ต้องกลัวความเค็มซัดเข้าตา แถมมีมิตรภาพดีระหว่างห่วงยางเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ด้วย
                   ลองซองดูสิเธอ